จักรวาลทั้งหมดและปรากฏการณ์ที่ดำรงอยู่ของมัน เคลื่อนที่อยู่ในวงกลม และการปรากฏที่ดำรงอยู่มีความคุ้นเคยและคล้ายคลึงซึ่งกันและกัน ผ่านทางความคิดมัชฌิม ความสัมพันธ์นี้ของแหล่งติดต่อสื่อสาร ตามทรรศนะวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เรียกว่าพลังงาน วิทยาศาสตร์บอกเราว่า ทุกสิ่งที่อยู่ในจักรวาลไม่ว่าจะมองเห็น หรือมองไม่เห็น ไม่สามารถถูกทำลายได้อย่างสิ้นเชิง และหลังจากวัตถุเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบต่างๆมากมาย จะเปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงาน และพลังงานนี้ยังคงปรากฏอยู่ในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น  การสูญสลายหรือถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงของ สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  ในเชิงจิตวิญญาณนิยมพลังงานเดียวกันนี้ ได้ ชื่อว่าคือวิญญาณความรู้ที่ถูกมอบให้กับวิญญาณได้กลายมาเป็นความคิด ทรรศนะ และความรู้สึก ความคิดและทรรศนะเหล่านี้ยังคงเดินทางท่องเที่ยวตลอดเวลา ควบขี่ ไปบนคลื่นและแสง หากหัวใจของเราสามารถได้รับศักยภาพที่จะอ่านออกและควบ คุมการเคลื่อนไหวของพลังงานเหล่านี้ได้ ดังนั้น เราสามารถที่จะมีความรู้เกี่ยวกับ ความเปลี่ยนแปลงและการผันแปรของความคิดในหอศิลป์แห่งจักรวาล   เราไม่สามารถ ก้าวเข้าไปสู่ซอกเล็กซอกน้อยที่สุดของจักรวาลได้ ตราบเท่าที่เราไม่ตระหนักถึงรากเหง้าแห่งหัวใจของจักรวาลในการเข้าไปในฟากฟ้าและจักรวาลเราต้องสามารถควบ คุมเหนือระยะการหายใจ ซึ่งสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวไปในทางสูงขึ้น

การเคลื่อนไหวของลมหายใจเข้าไปสู่เบื้องลึกคือจิตไร้สำนึก การเคลื่อนไหว ผ่อนลมหายใจออกมาจากเบื้องลึกสู่พื้นผิวคือจิตสำนึก เมื่อชีวิตแห่งจิตสำนึกตื่นตัว ชีวิตแห่งจิตไร้สำนึกจะหลบเข้าไปอยู่เบื้องหลัง  เมื่อชีวิตแห่งจิตไร้สำนึกตื่นตัว  การเคลื่อนไหวของจิตสำนึกจะถูกปิดบังไว้ ในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อกฎนี้ ความรู้เกี่ยวกับการกระตุ้นของทั้งจิตสำนึกและจิตไร้สำนึกมีความจำเป็น  พลังอันลึกลับ ของจิตใจสามารถทำงานได้เมื่อการเคลื่อนไหวขึ้นสูงของการหายใจถูกควบคุมโดยสมองเท่านั้นสิ่งนี้ทำให้เกิดการพัฒนาการรวมศูนย์ (เพ่ง) และการสร้างความเข้มข้น

อาจทำให้พึงพอใจที่จะระลึกว่า เสาอากาศที่ได้รับการติดตั้งอยู่ในตัวเรานั้น สามารถที่จะส่งหรือได้รับก็ต่อเมื่อจิตใจถูกเพิ่มสมรรถนะความสามารถในการสร้าง ความเข้มข้น และรวมศูนย์ความสนใจของมันเท่านั้น ความสามารถนี้จะถูกทำให้ทำงานและแข็งแรงได้ เมื่อเราจมดิ่งลึกลงไปในการเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นด้วยการอุทิศความสนใจและความเข้มข้นของเราเท่านั้น