ผู้ปรีชาสามารถล้ำเลิศคนหนึ่งของพวกญิน ได้กล่าวว่า

“ฉันจะนำมันมาเสนอท่าน   ก่อนที่ท่านจะลุกขึ้นจากที่นั่งของท่าน  และแท้จริงฉันเป็นผู้มีพลังและไว้วางใจได้ในเรื่องนี้”

ผู้ที่มีความรู้ในเรื่องคัมภีร์คนหนึ่งกล่าวว่า

“ฉันจะนำมันมาเสนอท่านชั่วพริบตาเดียว”

เมื่อโซโลมอนหันมาก็เห็นมันวางมั่นคงอยู่ต่อหน้า จึงสั่งว่า

“พวกท่านจงดัดแปลงบัลลังก์ของพระนาง เพื่อดูซิว่า พระนางจะจำมันได้หรือพระนางจะอยู่ในหมู่ผู้จำมันได้”

ต่อมาเมื่อราชินีเดินทางไปถึง  พระนางจึงถูกถามว่า

“บัลลังก์ของพระนางเหมือนอย่างนี้หรือ”

พระนางตรัสว่า

“มันคล้ายอย่างนี้แหละ

พร้อมทั้งกล่าวว่า

“เรามีความรู้เกี่ยวกับพลังอำนาจที่ไม่อาจมีใครเทียบเคียงได้ของท่าน   ฉันจึงมาที่นี่เพื่อสวามิภักดิ์ และเหตุการณ์อันวิเศษเกี่ยวกับบัลลังก์ คือปรากฎการณ์อีกอย่างหนึ่งแห่งพลังอำนาจของท่านที่ไม่เคยมีมาก่อน และผู้มีดวงตาเปิดอยู่เช่นพวกเรา  และตัวฉันเองขอแสดงความสวามิภักดิ์ต่อท่านอีกครั้งหนึ่ง”

โซโลมอน ได้นำพระนางไปยังพระราชวัง ซึ่งก่อสร้างอย่างอลังการด้วยวิศวกรที่เป็นมนุษย์และญิน  มีความตระหง่านสง่างามที่พิเศษเฉพาะ ตกแต่งประดับประดาอย่างประณีตและมหัศจรรย์ด้วยอัญมณี  มีตาน้ำอยู่ทางด้านขวาของทางเข้า ปูทับด้วยกระเบื้องควอทซ์ใสที่ลวงตา   และสามารถทำให้เป็นน้ำไหลบนพื้นได้ เมื่อราชินีถูกนำไปยังพระราชวังเพื่อให้พักอยู่ที่นั่น    พระนางพบว่ามีน้ำไหลอยู่บนพื้น ไม่มีทางอื่นที่จะผ่านไปได้  พระนางจึงถลกชายกระโปรงขึ้นจนเปิดเผยขาของพระนาง โซโลมอนจึงบอกว่า

“นี่เป็นเพียงลาดทางเดิน  ที่ราบเรียบด้วยกระเบื้องหนา”

นี่เป็นการเพียงพอแล้ว   ที่จะทำให้ราชินีเบิกสายตากว้างด้วยความงุนงง  มันเป็นการทำลายศักดิ์ศรี ความทะนงตนและความภูมิใจที่ผิดๆ   ของพระนางลงอย่างสิ้นเชิง  รู้สึกนอบน้อมและกล่าวยอมรับความผิดพลาดของตัวเองว่า

“ข้าแต่พระเจ้าของฉัน  แท้จริงฉันได้อธรรมแก่ตัวฉันเอง และฉันขอนอบน้อมปฏิบัติตามสุลัยมาน   เพื่ออัลลอฮ์ พระเจ้าแห่งสากลโลก”

นี่คือตัวอย่างเพียงเล็กน้อยจากหลายพันตัวอย่าง ที่ทำให้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่  นอกจากมนุษย์แล้วยังมีสิ่งถูกสร้างอื่นๆ  เช่น นก  สัตว์สี่เท้า สัตว์ป่า แมลง และญิน ทั้งหมดนั้นล้วนมีสติปัญญาและจิตสำนึกทั้งสิ้น