ในหมู่ผู้ที่มีความรู้อย่างมั่นคง ความศรัทธารูปแบบหนึ่งจะเกิดขึ้น ซึ่งจะสัมพันธ์ต่อพระเจ้าอยู่ทุกขณะ ทุกกิจกรรม ทุกหน้าที่ และทุกคำสั่งในชีวิตของเขา นี่คือแบบแผนความคิดของบรรดาศาสดา ความมั่นคงที่เกิดขึ้นในจิตใจซึ่งพระเจ้าทรง จัดสรรให้จะไปถึงเขาในทุกกรณี ความศรัทธานี้จะสร้างความเข้มแข็งของ “การมี อุเบกขา” (อิสตักนา) ในพวกเขา ท่านกอลันดาร บาบา เอาลิยาอ์กล่าวว่า อุเบกขา ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้โดยปราศจากการมีศรัทธา และความศรัทธาจะไม่สมบูรณ์ โดยปราศจากการสังเกต และผู้ที่ไม่มีอุเบกขาจะเข้าใกล้ความสัมพันธ์กับโลกแห่งวัตถุ (โลกที่ตกต่ำลง) มากกว่าจะเข้าใกล้พระเจ้า

จิตวิญญาณนิยมคือเอกสารของบทเรียนดังกล่าว ซึ่งได้อธิบายว่า การมี อุเบกขานั้นคือเกณฑ์สำหรับความสันติและสงบเยือกเย็นภายใน สำหรับความมี อุเบกขานั้น การไว้วางใจ (เชื่อมั่น) ในพระเจ้า ผู้ทรงอำนาจในทุกสิ่งเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความเข้มแข็งของการไว้วางใจดังกล่าว จำเป็นที่มนุษย์จะต้องมีความศรัทธา และ ในการมีความศรัทธา ผู้นั้นจะต้องมีสายตาที่สามารถมองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น มีเช่น นั้นจะไม่มีผู้ใดมีสันติสุขได้ในโลกสมัยใหม่ มันเป็นสถานการณ์ที่ประหลาด ที่ทุกคน ต้องการมีทรัพย์สินมากมาย ในขณะเดียวกันก็ร้องทุกข์ถึงการขาดไร้ความสันติสุข ความสันติสุขไม่ใช่สิ่งชั่วคราว แต่ในความจริงเป็นสภาวะถาวรที่ไม่เคยถูกขจัดออกไป เพราะฉะนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่สิ่งชั่วคราว มีอายุสั้น ย่อยยับอับเฉาและเราเห็น มันมลายหายไปอยู่เสมอต่อหน้าต่อตา จะสามารถให้ความสันติสุขแก่เราได้ อุเบกขา คือการเข้าใกล้ความคิด ซึ่งบุคคลพิจารณาไตร่ตรองสิ่งที่เป็นความจริงและไม่ตาย หลัง จากถอนหัวใจของเขาออกจากสิ่งที่เป็นวัตถุธาตุและไม่จีรัง เมื่อความคิดนี้ทำให้คน หนึ่งเข้าไปสู่สิ่งที่มองไม่เห็นเป็นลำดับ ประการแรกสุด ความศรัทธาจะก่อร่างขึ้น ในตัวเขา ทันที่ที่รัศมีแห่งความศรัทธาส่องสว่างขึ้นในจิตใจ การเห็นที่มองดูสิ่งที่มองไม่เห็นก็จะได้รับกระตุ้นในตัวผู้นั้น เมื่อปรากฏต่อเขาหลังจากเห็นสิ่งที่มองไม่เห็นว่า จักรวาลทั้งมวล คือ อาณาจักรของพระเจ้าองค์เดียว ความโน้มเอียงแห่งจิตใจก็จะพุ่ง เป้าไปที่ผู้เป็นสิ่งเดียวนั้น และหลังจากการรวมศูนย์ความคิดนี้แล้ว ต้นไม้แห่งอุเบกขา ก็จะเติบโตขึ้นและขยายใหญ่ในตัวเขากิ่งแล้วกิ่งเล่า