โทรจิต คืออะไร

مکمل کتاب : โทรจิต คืออะไร

ผู้แต่ง:

URL แบบสั้น: https://iseek.online/?p=16286

โลกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับระบบดาราจักร และระบบสุริยะ วิทยาศาสตร์ได้มาถึงระยะของความก้าวหน้า ซึ่งมีความต้องการที่จะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแสงของดาราจักรและระบบสุริยะกับดาวโลกของเรา และแสงจากระบบทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อมนุษย์ สรรพสัตว์ พันธุ์พืชและสิ่งไม่มีชีวิตต่างๆ อย่างไร เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัตว์ พันธุ์พืชและวัตถุอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังมีความเชื่อ ด้วยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นคลื่น ไม่มีอะไรนอกจากคลื่น คลื่นซึ่งไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแสง
ในเรื่องโทรจิต ความรู้ดังกล่าวเป็นการขุดค้นถึงสิ่งที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึก ซึ่งยังครอบคลุมจิตสำนึกของเรา ความรู้นี้บอกเราว่า อำนาจแห่ง ประสาทสัมผัสเป็นเรื่องสมมุติและถูกประดิษฐ์ขึ้น
ตัวอย่าง
เมื่อมองเห็นของแข็ง จะรู้ทันทีถึงความแข็งของสิ่งนั้น ทั้งๆ ที่จิตของ เรามิได้สัมผัสกับสิ่งของดังกล่าว
ตามความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ และศาสตร์ที่ลี้ลับอื่นๆแล้ว ทุกสิ่งที่ดำรงอยู่ล้วนเป็นการรวมกันของคลื่นและรังสี เมื่อเราให้ความสนใจต่อเนื้อไม้หรือเหล็ก คลื่นของไม้หรือเหล็กนั้นจะสื่อให้จิตของเรารับรู้ ในการสื่อ ต่อจิตดังกล่าวความรู้สึกสัมผัสต่อเนื้อไม้และเหล็กจริงๆ ไม่มีความจำเป็นอีกทั้งจะต้องพินิจพิจารณาอย่างลึกซึ้งด้วยว่า คลื่นไม่มีทั้งความหนาแน่นและน้ำหนัก ดังนั้น เราจะรู้ถึงความนุ่มและความแข็งของวัตถุได้อย่างไร ในทำนองเดียวกับการเห็นน้ำ ถึงแม้ว่าน้ำนั้นจะไม่เปียกจิตใจของเรา เราจะกล่าว ว่าน้ำคือน้ำได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่ได้เปียกจิตใจของเรา
มีสีมากกว่า 60 ชนิดเท่านั้นที่ถูกค้นพบ เมื่อเรามองเห็นสี ไม่เพียงจะ เข้าใจได้ในทันที แต่เรายังได้รับอิทธิพลโดยตรงต่อความจัดจ้านของมันด้วย ความเขียวและสีเขียวให้ผลทางเย็นต่อประสาทของเรา ขณะที่สีแดงทำให้เกิด อาการเคืองตา ไม่ค่อยสบายและทำให้เกิดขึ้นได้แม้แต่ความรู้สึกที่ขาดดุลยภาพ
ความจริงแล้วทุกสิ่งดำรงอยู่เพราะคุณสมบัติที่ชัดเจนและแน่นอน คุณสมบัติที่แน่นอนและสำคัญของคลื่นและรังสี เป็นตัวแยกสิ่งหนึ่งสิ่งใดออก จากสิ่งอื่น รังสีของสิ่งต่างๆ เป็นตัวให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสิ่งนั้น ตามความรู้แล้ว ทุกสิ่งที่ดำรงอยู่คืออีกชื่อหนึ่งของคลื่น และคลื่นของแต่ละสิ่งก็แตกต่าง
จากสิ่งอื่นถ้าด้วยเหตุใดก็ตาม เรามีความรู้ในเรื่องลักษณะของ คลื่นที่มีผลในตัวมนุษย์ สัตว์ พันธุ์พืชและสิ่งที่ไม่มีชีวิต และมีความรู้ว่าจะควบคุมมันได้อย่างไร ดังนั้น เราจึงจะสามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้ รังสีหรือคลื่น นั้น ความจริงเป็นการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง และทุกสิ่งมีสูตรการเคลื่อนไหวที่ตายตัวของคลื่น
เรายังคงถูกรายรอบอยู่ด้วยเสียงต่างๆ เสมอ เสียงก็เป็นรูปแบบหนึ่งของคลื่น ซึ่งมีความยาวคลื่นต่างๆ กัน นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่ามนุษย์ไม่สามารถได้ยินเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่า 20 รอบ/วินาที หรือหากคลื่นความถี่เกิน 20,000 รอบ/วินาที ก็ไม่สามารถได้ยินได้ คลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่า 20 รอบ/ วินาที จะได้ยินได้โดยใช้กระแสไฟฟ้าช่วย ในทำนองเดียวกันคลื่นเสียงที่มีความถี่เกิน 20,000 รอบ/วินาที ก็จะได้ยินได้โดยใช้กระแสไฟฟ้าเป็นเครื่องช่วยเช่นกัน
การเร้าที่เกิดขึ้นบนจอตา ก็เป็นเพราะรังสีหรือคลื่น ดวงตามีความไวเท่าใด ความพิเศษของแสงที่รับได้ก็มากขึ้นเท่านั้น กฎของโทรจิตก็โดยการ ฝึกฝนตังกล่าว ความรู้สึกของการมองเห็นถูกทำให้แหลมคมและเพิ่มพูนขึ้น จนไปถึงขอบเขตที่ผู้หนึ่งสามารถแยกแยะระหว่างกระแสของคลื่นสิ่งเร้ากับคลื่น ของความรู้สึก ดวงตาเป็นอวัยวะสัมผัสด้านการเห็น และอยู่ภายใต้อิทธิพลของ สิ่งเร้าภายนอก และสิ่งเร้าภายนอกที่กระทบสมองผ่านทางสายตา ทำให้เกิด การกระตุ้นความรู้สึกของการมองเห็น
ตามที่กล่าวไปแล้วว่า เสียงที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 20,000 รอบ/ วินาที สามารถได้ยินได้โดยใช้กระแสไฟฟ้าช่วย นี่เป็นเพียงเพราะความรู้สึก และความคิดทั้งหมด อยู่ในประเภทเป็นแหล่งของกระแสไฟฟ้าด้วย ถ้าความ คิดของเราเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่กระแสไฟฟ้า ก็จะไม่สามารถเอื้ออำนวยต่อกระแส ไฟฟ้าในการนำคลื่นเสียงไปได้ ในเรื่องโทรจิตนั้น ความคิดซึ่งความจริงเป็นกระแสไฟฟ้าได้ถูกเคลื่อนย้ายไปยังบุคคลอื่นในการเคลื่อนย้ายความคิด จำเป็นที่กระแสนี้ต้องถูกรวมศูนย์ไปที่จุดหนึ่ง หรือพุ่งเป้าเล็งไปทางทิศทางใดทิศทางหนึ่งเป็นการเฉพาะ ถ้ายังคงสามารถพุ่งเป้าเล็งไปได้ แม้เพียงระยะเวลาอันสั้นก็จะยังผลในระยะยาว มนุษย์และสิ่งที่ไม่มีชีวิตอื่นๆ สามารถได้รับอิทธิพลเนื่องจากกระแสนี้ได้
จำเป็นต้องทราบว่า อะไรก็ตามที่เรามองเห็นนั้น มิได้ถูกมองเห็นในโลก ภายนอก รูปแบบทุกอย่างที่ปรากฏของจักรวาล สถิตอยู่ในตัวของเราเอง เราคิดว่าสิ่งที่เรากำลังสังเกตอยู่นั้นปรากฏอยู่ภายนอก การดำรงอยู่ของสิ่งใดก็ ตามในภายนอกเป็นเพียงปรากฏการณ์โดยสมมติเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างคือการ ปรากฏอยู่ภายในตัวของเรา และเราสังเกตมันจากที่นั่น การสังเกตทุกอย่างคือ ความรู้ของเรา ถ้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างเราจะมองไม่เห็นมัน
เรื่องโทรจิต ในตอนเริ่มต้นนั้น บุคคลผู้หนึ่งต้องบรรลุถึงการปฏิบัติว่าวัตถุและสิ่งของนั้นปรากฏอยู่ภายในตัวเรา โดยที่ผลลัพธ์ของการปฏิบัติสิ่งผู้หนึ่ง เริ่มสังเกตสิ่งใดเป็นการเฉพาะภายในตัวเขาเอง ความสนใจและความเพียร พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพุ่งเป้าไป ในที่สุดก็ทำให้ผู้นั้นสามารถที่จะมองเห็น บางสิ่งบางอย่างในตัวของเขาเอง เพื่อการพัฒนาความสามารถในการสำรวมความคิด จะต้องปฏิบัติการฝึกลมหายใจและมุรอกอบะฮ์ (อุตรวิสัยสมาธิ)

แสดงทั้งหมด ↓

โปรดให้ความคิดเห็นของคุณ

    Your Name (required)

    Your Email (required)

    Subject (required)

    Category

    Your Message (required)