เกลือและน้ำตาล

مکمل کتاب : เกลือและน้ำตาล

ผู้แต่ง:

URL แบบสั้น: https://iseek.online/?p=16296

ความรู้อย่างท่องแท้ และความเข้าใจเกี่ยวกับกิจกรรมและความเคลื่อนไหวของอาณาบริเวณที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่านั้น ปกติจะถือว่าเป็นสิ่งที่ลึกลับ และอธิบายไม่ได้ มีความเข้าใจผิดปรากฏอยู่อย่างมากมายเกี่ยวกับข้อพิสูจน์ ของอาณาบริเวณที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใดก็ตามที่มีการพิจารณากันถึง เรื่องนี้ ปฏิกิริยาของผู้คนเกือบทั้งหมดก็คือ เป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ที่จะสังเกต และพิสูจน์ในเรื่องราว และกิจกรรมของอาณาบริเวณที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยปกติแล้วท่าที่ของผู้คนก็คือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และแสดงความประหลาดใจ เมื่อ บางคนพยายามที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตนและแสวงหาคำอธิบายใน บริบทนี้
ตามทรรศนะของปราจิตวิทยา ทุกคนได้รับพรสวรรค์เป็นคุณสมบัติของ การสังเกตและการพิสูจน์ในเรื่องปรากฏการณ์ทางอภิปรัชญา สิ่งนี้เป็นความ แตกต่างด้วยประการทั้งปวงไม่ว่าเขาจะใช้มันหรือไม่ก็ตาม มนุษย์ทั้งชาย และหญิง ได้รับสิทธิในความสามารถที่จะสังเกต สำนึกและเข้าใจเรื่องราวที่ ผิดปกติของโลกที่มองไม่เห็น เงื่อนไขเดียวคือการใช้ประโยชน์จากความสามารถ ของพรสวรรค์นี้นับเป็นความผิดพลาดของเรา ถ้าไม่รู้แบบแผนของการฝึกฝนความสามารถนี้
นักศึกษาศาสตร์ของอภิปรัชญารู้ดีว่า ในตัวมนุษย์มีองค์ประกอบทาง จิตใจอยู่ 2 ประการในเวลาเดียวกัน องค์ประกอบหนึ่งคือจิตใจที่รับผิดชอบ ในเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกของจิตลำนึก และความรู้สึกของโลกีย์ วัตถุ มันเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น ซึ่งยังคงถูกกักขังอยู่ในความจำกัดของ กาลเทศะ จิตใจนี้ถูกเรียกว่าจิตสำนึก อีกประการหนึ่งคือ จิตไร้สำนึกที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความเข้าใจของความรู้สึกซึ่งไม่ขึ้นกับความจำกัดทางด้านกาลเทศะ และมีความสามารถในการเข้าใจความเป็นจริงทางด้านอภิปรัชญาได้ เราคุ้นเคยกับจิตแรกนั่นคือจิตสำนึก แต่ความคุ้นเคยของเรากับจิตไร้สำนึกยังห่างไกลจากความต้องการในความเป็นจริงอยู่มาก จนบัดนี้เราต้องสำรวจวิธีการ ที่จะทำให้ตัวเราคุ้นเคยกับแบบแผนการทำงานของจิตไร้สำนึกที่ได้มีการค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ทางด้านจิตวิญญาณว่า น้ำตาลและความหวานผลิตความเคร่งขึมและช่วยในการสร้างสรรค์ความรู้สึกจิตสำนึก และคุณสมบัติที่มีอยู่ในเกลือจะกระตุ้นความรู้ลึกของจิตไร้สำนึก ความหวาน และน้ำตาลพัฒนาปรับปรุงจิตสำนึก ซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับการมีชีวิต และ ความเข้าใจต่อปรากฏการณของโลกวัตถุ เกลือจะกระตุ้นจิตใจ ซึ่งได้รับการ เรียกว่า จิตไร้สำนึก และทำให้เกิดผลต่อความเข้าใจในปริมณฑลทาง อภิปรัชญา ได้มีประสบการณ์ว่าจิตไร้สำนึกของผู้บริโภคเกลือมีความตื่นตัว มากกว่าผู้ที่บริโภคน้ำตาล ทั้งนี้เทียบตามปริมาณการบริโภคเกลือ และน้ำตาลของแต่ละคน
เมื่อข้าพเจ้าทราบเกี่ยวกับกฎเกณฑ์นี้ที่ว่า เกลือกระตุ้นจิตไร้สำนึกข้าพเจ้าตัดสินใจทดลองกับตัวเอง ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงหยุดบริโภคน้ำตาล จึงประสบกับความอ่อนเพลีย อ่อนแรงในสองสามสัปดาห์แรก หลังจากนั้นไม่ กี่สัปดาห์ก็เริ่มเข้าที่ และเริ่มคุ้นเคยกับสภาวะจิตใจเช่นนี้ ความอ่อนเพลีย ลดลงแต่อารมณ์ฉุนเฉียวและสภาวะไม่ร่าเริงยังคงมากกว่า หลังจากสองเดือน ผ่านไป ข้าพเจ้าเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของข้าพเจ้าผอมลงและมีรูปร่างที่ดีขึ้น นอกจากจะงดน้ำตาลและอาหารหวานแล้วข้าพเจ้ายังดำเนินการปฏิบัติ แบบฝึกฝนเพื่อเพิ่มความเข้มข้นทางอารมณ์อีกด้วย
เมื่อเกลือในเลือดของข้าพเจ้าขึ้นสูง อันเนื่องมาจากการละเว้นจากการ บริโภคน้ำตาล ข้าพเจ้าเริ่มประสบกับสิ่งผิดปกติ อิฐกำแพงเริ่มดูเหมือนบางราว กับทำมาจากกระดาษ ความลึกซึ้งมากขึ้นในความเข้มข้น มีผลต่อการปลดปล่อยข้อจำกัดของที่ว่างและเวลา ครั้งหนึ่ง เมื่อข้าพเจ้ากำลังนั่งปล่อยจิตใจ อยู่คนเดียว ด้วยความแปลกใจข้าพเจ้าสังเกตว่าระยะห่างระหว่างพื้นกับหลังคา ไม่ได้คงอยู่เหมือนเดิม เมื่อพยายามที่จะสัมผัสหลังคา ข้าพเจ้าทำได้โดยง่าย หรือกล่าวได้ว่า ระยะห่างระหว่างพื้นกับหลังคาได้หายไปแล้วสำหรับข้าพเจ้า
อนุกรมที่ไม่รู้จักจบสิ้นของความฝัน เริ่มขึ้นในเดือนที่สามของแผนการ งดเว้นน้ำตาล ความฝันมักจะเป็นจริงบางครั้งในวันต่อไป ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเห็น ว่า น้องสาวของข้าพเจ้าป่วยและอยู่ในความเจ็บปวดอย่างรุนแรง หลังจากตื่น ขึ้นข้าพเจ้าแปลกใจ เพราะเมื่อคืนก่อนนี้เอง ข้าพเจ้ายังอยู่กับเธอและเธอก็ยังปกติดีหลังจากนั้นสักครู่หนึ่งข่าวก็มาถึงว่าน้องสาวของข้าพเจ้าล้มป่วยอย่างกะทันหัน และขณะนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาล ในวาระโอกาสอื่นอีก ข้าพเจ้ามอง เห็นในความฝันว่า ตัวเองได้รับจดหมายจากเพื่อนคนหนึ่ง จากนั้นยังมองเห็น ว่า ตัวข้าพเจ้าอยู่ที่ชานชาลาสถานีรถไฟ โดยกำลังรอคนบางคนอยู่ หลังจากตื่นขึ้นมา ราว 11 โมงเช้า ข้าพเจ้าได้รับโทรเลขแจ้งการมาของเพื่อนข้าพเจ้า คนนั้น ซึ่งข้าพเจ้าขาดการติดต่อกับเขาเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา และในวันรุ่งขึ้นข้าพเจ้าก็ไปรับเขาที่ชานชาลาสถานีรถไฟ ดั่งที่เห็นในความฝัน
จากนั้นรูปแบบความฝันก็เปลี่ยนไป และเริ่มเห็นว่าข้าพเจ้ากำลังบินไปในอากาศเหมือนนก แม้แต่การเคลื่อนไหวมือก็เหมือนนก บางครั้งข้าพเจ้า เคยบินในระดับความสูงที่ทำให้ตื่นตกใจ หลังจากนั้นข้าพเจ้ายังประสพในความ ฝันของตัวเองว่า ข้าพเจ้าแลเห็นสถานที่ซึ่งห่างไกล ได้พบผู้คนที่แตกต่างกัน ได้กินผลไม้รสอร่อย และหวาน รสชาติของอาหารในความฝันยังติดอยู่ แม้เมื่อ ตื่นขึ้นมาแล้ว หลังจากการงดน้ำตาล ครบ 6 เดือนบริบูรณ์ ข้าพเจ้าเริ่มเห็น เป็นประจักษ์ถึงสิ่งที่อยู่ไกลออกไป ถึงแม้ในระหว่างที่ตื่นอยู่ก็ตาม ข้าพเจ้าสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในระยะไกลได้ ตัวอย่างเช่นครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเริ่มคิด ถึงเกี่ยวกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ ทันใดนั้นข้าพเจ้าพบ ว่าตัวเองไปปรากฏอยู่ในบ้านเพื่อนที่สวิสเซอร์แลนด์ ข้าพเจ้าได้เห็นบ้าน ห้องหับ เครื่องตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ เหมือนกับว่าข้าพเจ้าเห็นสิ่งเหล่า นี้ทางกายภาพ เมื่อถึงขณะนี้ นี่เป็นประสบการณ์ที่พิเศษจริงๆ สำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเขียนจดหมายไปถึงเพื่อน พร้อมด้วยภาพร่างคร่าวๆ ของบ้านที่เห็นใน จินตนาการ ในภาพร่างประกอบด้วยห้องหลายห้องในบ้านของเขา ขนาดความกว้าง ความยาว ตำแหน่งของเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ก็ระบุอยู่ในภาพ ร่างนั้น คำตอบของเพื่อนข้าพเจ้ายิ่งสร้างความแปลกใจมากยิ่งกว่า เขาเริ่มต้นว่าราย ละเอียดที่ข้าพเจ้าให้ไปถูกต้องอย่างสมบูรณ์ เขาเขียนหลังจากแสดงความ ประหลาดใจว่า ข้าพเจ้าอธิบายได้ในรายละเอียด ที่แม้แต่ตัวเขาก็ไม่สามารถ ทำได้หากถูกถามให้อธิบาย
เมื่อเดือนที่เก้าของการงดน้ำตาลเสร็จสมบูรณ์ ข้าพเจ้าเริ่มมีประสบ การณ์ว่า ความคิดของบุคคลใดก็ตามมาสัมผัสกับข้าพเจ้า จะปรากฏผ่านจอ ในจิตใจและสามารถอ่านจิตใจของบุคคลอื่นได้อย่างง่ายดาย วันหนึ่งหลังจาก บิดาข้าพเจ้ากลับจากมัสยิดแล้ว ท่านตำหนิที่ข้าพเจ้าไม่ได้ไปมัสยิด ข้าพเจ้าขออภัยและสัญญาว่าจะระมัดระวังในอนาคต แต่การบ่นว่าของท่านก็ยังดำเนิน ต่อไป ครั้นแล้วในทันใดนั้น ก็ปรากฏแก่ข้าพเจ้าอย่างกะทันหันว่า ในขณะที่ บิดาข้าพเจ้ากำลังเคารพภักดีพระเจ้าอยู่ แต่ความจริงในเวลานั้น ท่านได้คิดคำนวณจำนวนเงินที่ใช้ไปในการซ่อมแซมบ้านไปด้วย ข้าพเจ้าไม่สามารถอดทนเฉยอยู่ได้ และกล่าวกับท่านว่า
“มีประโยชน์อะไรสำหรับการเคารพภักดีพระเจ้า ซึ่งผู้หนึ่งคิดเรื่องค่าใช้จ่ายของการซ่อมแซมบ้านไปด้วย”
ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจมากที่ท่านยอมรับว่า ท่านคำนวณค่าซ่อมแซมบ้าน
(ในขณะเคารพภักดีพระเจ้า) จริง
ตัวอย่างเล็กน้อยนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การงดน้ำตาลช่วยในการ ปลดปล่อยผู้หนึ่งจากข้อผูกมัดทางกาลเทศะ นี่ยังเป็นเหตุผลที่ว่าการฝึกฝนที่ได้รับการแนะนำในการศึกษาเรื่องโทรจิตนั้น จะถูกเสริมด้วยทิศทางนี้นั่นคือการบริโภคน้ำตาลจะต้องถูกลดลงอย่างมาก
การทดลองได้ยืนยันว่า เกลือส่วนเกินที่ผสมอยู่ในเลือดช่วยในการปลดปล่อยจากอำนาจของความรู้สึกของจิตสำนึก สิ่งนี้อยู่ในประสบการณ์ของเรา ด้วยว่า เมื่อเกลือไม่ได้ถูกรวมเข้าไปในการควบคุมอาหารของเรา เราจะทรมานจากโรคต่างๆ ตามปกติการใช้เกลือและน้ำตาลมีผลทำให้เกิดโรคและความ ทุกข์ การงดจากการบริโภคของหวานหรือน้ำตาลกระตุ้นจิตใต้สำนึก แต่โดย ที่มนุษย์ไม่ได้ถูกฝึกให้เคยชินในการใช้ชีวิตกับกิจกรรมของจิตใต้สำนึก เพราะ ฉะนั้น จึงมีผลทำให้เกิดความสลับซับซ้อนมากมาย ดังนั้น จึงจำเป็นที่การบริโภค น้ำตาลจะไม่ถูกลดลงด้วยตัวท่านเอง ถ้าระหว่างหลักสูตรการเรียนวิชาการ ด้านอภิปรัชญา มีความต้องการในการงดหรือการลดเกลือหรือน้ำตาล ก็ไม่ สมควรกระทำ ยกเว้นได้รับการแนะนำ หรืออย่างน้อยที่สุดได้รับอนุญาตจากครู
ครูเท่านั้นที่รู้ว่า เมื่อใดที่แบบฝึกฝนจะได้รับการฝึก และเมื่อใดควรจะไม่ ผู้ที่งดการบริโภคน้ำตาลอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของครู ได้รายงานว่า การฝึกฝนนี้ช่วยพวกเขาให้ได้รับการปลดปล่อยจากความจำกัดเกี่ยวกับที่ว่าง และเวลา ช่วยให้พวกเขาเห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไป เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต อันไกลโพ้นหรือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ในระดับที่วิเศษ ณ ที่นี้ดูเหมือนมีความจำเป็นที่จะชี้ออกมาว่า การกระตุ้นจิต ไร้สำนึกไม่ใช่แนวความคิดทางจิตวิญญาณ เพียงแต่ช่วยให้หยั่งรู้ถึงความจริง ที่ปรากฏอยู่ ณ ระดับนั้นๆ การกระตุ้นจิตไร้สำนึก มีส่วนช่วยในการสำรวจสามารถที่ซ่อนอยู่ของวิญญาณ แต่นี่ไม่ใช่สิ้นสุดปลายทางแล้ว
การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน (เดือนที่เก้าของปฏิทินอิสลามตาม จันทรคติ) คือโปรแกรมที่ศาสนามอบให้ ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การควบคุมการ บริโภคเกลือและน้ำตาล ซึ่งในท้ายที่สุดสามารถทำให้เราได้รับแรงกระตุ้นของ จิตไร้สำนึกของตัว เรา เองได้
โทรจิตมีเป้าหมายโดยพื้นฐานไปที่การถ่ายทอดความคิดโดยปราศจาก ความจำเป็นของตัวกลาง การดับสูญของตัวกลางหมายความว่าระยะทางของที่ว่างและเวลาที่ดำรงอยู่ระหว่างปัจเจกทั้งสองนั้นหายไป ดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า ความคิด คือแสง แสงซึ่งเป็นอิสระจากกาลเทศะ โดยที่เราไม่เคยถูกฝึกให้เคยชินกับการสื่อสารโดยปราศจากการใช้ตัวกลาง ดังนั้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการทำเช่นนี้ จึงมีความต้องการให้เราฝึกฝนอย่างเข้มข้น มีแบบฝึกฝนมากมายที่ได้รับการแนะนำให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้ ตัวอย่างเช่น การเพ่ง เทียน หรือ กระจกเงา จ้องมองดูวงกลม เพ่งในความมืด จ้องดูฟิล์มเนกาตีฟ มองดูดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือน้ำ ฯลฯ เป็นต้น

แสดงทั้งหมด ↓

โปรดให้ความคิดเห็นของคุณ

    Your Name (required)

    Your Email (required)

    Subject (required)

    Category

    Your Message (required)